คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7733/2542

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
พยาน 3 ปากเบิกความยืนยันสอดคล้องกันว่าไม่มีกรณีป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เบิกความว่าผู้เสียหายคุยกับจำเลย ห่างประมาณ 1 ศอก แล้วจำเลยชักอาวุธปืนออกมาจากเอวด้านหลังพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้เสียหาย จำเลยมอบตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจหลังเกิดเหตุให้การรับสารภาพโดยไม่ได้กล่าวอ้างข้อต่อสู้ป้องกันตัว ข้อเท็จจริงรับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย1 นัด อันปราศจากเหตุที่จะอ้างว่าป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง เมื่อใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นหากไม่มีเหตุผลพิเศษอันควรรับฟัง ย่อมแสดงว่ายิงด้วยมีเจตนาฆ่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ท้อง กระสุนปืนถูกอวัยวะสำคัญภายในฉีกขาด คือลำไส้ใหญ่และม้าม นับว่าเป็นบาดแผลฉกรรจ์ เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยมีเจตนาฆ่า การที่ ไม่ได้ยิงซ้ำทั้ง ๆ ที่ยังมีกระสุนปืนอีก 1 นัด ได้ความว่าอาวุธปืนของจำเลยยิงได้ทีละนัด หากจะยิงซ้ำต้องหักลำกล้องเอาปลอกกระสุนเก่าออกแล้วใส่กระสุนใหม่ ดังนี้แม้จำเลย ประสงค์จะยิงซ้ำก็ไม่อาจทำได้โดยง่าย ลำพังข้อเท็จจริงที่ยิงเพียงนัดเดียวหาได้แสดงว่าไม่มีเจตนาฆ่า
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

ผู้พิพากษา

ประดิษฐ์ สิงหทัศน์
กมล เพียรพิทักษ์
สมชาย พงษธา

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android