คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2296/2538

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกของ ช. คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาผู้ร้องทั้งสามซึ่งเป็น ทายาทของ ช. ย่อมมีสิทธิ ร้องสอดเข้ามาเพื่อบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ได้จึงเป็น คู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา57(1)แม้ผู้ร้องทั้งสามจะมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่าเมื่อพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้วไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาสั่งคำร้องของผู้ร้องทั้งสามอีกต่อไปแต่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาใหม่ตามรูปคดีคดีของผู้ร้องทั้งสามจึงยังไม่ถึงที่สุดการที่ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีใหม่ในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ร้องทั้งสามด้วยจึงไม่ชอบ โจทก์มิได้ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เป็นจำนวนเงินตามฟ้องแต่ขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นทรัพย์มรดกซึ่งโจทก์มีส่วนได้1ส่วนใน5ส่วนการแบ่งที่ดินหากตกลงแบ่งกันไม่ได้ให้เอาที่ดินออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกันระหว่างทายาทตามส่วนเป็นการขอให้แบ่งทรัพย์มรดกระหว่าง เจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1364เมื่อข้อเท็จจริงดังกล่าวฟังได้เป็นยุติแล้วศาลก็ต้องพิพากษาให้แบ่งตามคำขอของโจทก์การที่ศาลวินิจฉัยว่าวิธีการแบ่งทรัพย์ได้มีการกำหนดไว้ในกฎหมายแล้วไม่จำต้องพิพากษาให้และยกคำขอส่วนนี้จึงไม่ชอบ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243

ผู้พิพากษา

ชลอ บุณยเนตร
สมาน เวทวินิจ
ธวัชชัย พิทักษ์พล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android