คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2365/2533

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
กำหนดอายุความตามกฎหมายนั้น ต้องเริ่มนับแต่ขณะอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป เมื่อข้อเท็จจริงคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์กระทำละเมิดในทางการที่จ้างเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของโจทก์และของบุคคลอื่นเสียหาย อันเป็นสิทธิเรียกร้องจากการที่ทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย และที่โจทก์ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ดังนี้ ค่าเสียหายในส่วนค่าซ่อมรถของโจทก์เองที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่ผู้รับจ้างซ่อมเป็นค่าเสียหายที่โจทก์อาจเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ได้นับแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันที่ก่อให้เกิดความเสียหายอันเป็นขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ อายุความจึงนับเริ่มแต่นั้นมิใช่เริ่มแต่วันที่โจทก์ใช้ค่าซ่อมรถให้ผู้รับจ้างซ่อม ฉะนั้นแม้ต่อมาภายหลังจำเลยจะได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงก็ตาม แต่นับตั้งแต่วันทำหนังสือรับสภาพหนี้ถึงวันฟ้องก็เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปีแล้ว ฟ้องโจทก์ส่วนนี้จึงขาดอายุความ สำหรับค่าเสียหายในส่วนที่โจทก์ในฐานนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับจำเลย เมื่อโจทก์ได้ชดใช้ให้แก่บุคคลอื่นที่ได้รับความเสียหายจากการทำละเมิดของจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างไปแล้ว โจทก์ก็ชอบจะให้รับการชดใช้จากจำเลยได้นับแต่วันที่โจทก์ชดใช้ให้บุคคลอื่น ดังนั้น อายุความกรณีนี้จึงต้องเริ่มนับแต่วันดังกล่าว อันเป็นขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ เมื่อนับถึงวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 10 ปี ฟ้องโจทก์ส่วนนี้จึงไม่ขาดอายุความ.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 169
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448

ผู้พิพากษา

ครีภูมิ สุวรรณโรจน์
เคียง บุญเพิ่ม
ก้าน อันนานนท์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android