คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2533

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญานำรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุมาร่วมรับส่งคนโดยสารกับจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 2 เป็นผู้หาพนักงานประจำรถมาทั้งหมด รวมทั้งการจ่ายเงินเดือนและการเลิกจ้างด้วย จำเลยที่ 1 เป็นผู้ประกอบการขนส่ง จำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ ขณะเกิดเหตุยังใช้ชื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ติดอยู่ข้างรถยนต์คันดังกล่าว แม้จำเลยที่ 2 จะให้จำเลยที่ 3 เช่าซื้อรถยนต์คันนั้น แต่จำเลยที่ 2 ก็ยังคงเป็นเจ้าของและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับจำเลยที่ 1ด้วย ดังนี้จำเลยที่ 2 จะต้องร่วมรับผิดในความประมาทเลินเล่อที่คนขับรถคันดังกล่าวได้ก่อขึ้น รถยนต์บรรทุกซุงของจำเลยที่ 5 เลี้ยวขวาจะเข้าอำเภอเมือง สิงห์บุรี รถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 แล่นมาทางตรง ชนตรงกลางท่อนซุงจนสาลี่และซุงล้มตะแคง หน้ารถยนต์ของจำเลยที่ 2 เสียหายยับเยินยุบไปถึงที่นั่งคนโดยสารทำให้คนโดยสารตาย 3 คน ขณะรถยนต์บรรทุกซุงเลี้ยวมีเด็กท้ายรถลงมายืนให้สัญญาณเพื่อให้รถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 ชะลอรถ แต่รถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2ไม่ชะลอ แสดงว่าขับด้วยความเร็วสูงไม่ชะลอรถเมื่อถึงทางแยกและไม่ระมัดระวังความปลอดภัยข้างหน้า ดังนี้ฟังได้ว่าคนขับรถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 ประมาทเลินเล่อด้วย จำเลยที่ 1 และที่ 2 นายจ้างต้องร่วมกันรับผิด.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1054

ผู้พิพากษา

พนม พ่วงภิญโญ
สุทิน นนทแก้ว
ประเสริฐ บุญศรี

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android