คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2604/2532

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ป. วิวาทกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงใช้เหล็กแป๊ป น้ำ ยาว80 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 1 นิ้ว เป็นอาวุธตี ป.ที่ศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะส่วนสำคัญอย่างรุนแรง 1 ครั้ง เป็นเหตุให้มีก้อนเลือดราว 200 มิลลิลิตร อยู่นอกเยื่อหุ้มสมองและกดสมองจนเป็นเหตุให้ ป. ถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุเพียง 2 ชั่วโมงเศษย่อมแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่า ต้องการฆ่า ป. หรือเล็งเห็นผลได้ว่าทำให้ ป. ถึงแก่ความตายได้ จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เพียงแต่วิ่งตามจำเลยที่ 1 และ ป. ไป เมื่อตามไปทันก็ช่วยจับ ป. จนล้มลง และกด ป. ให้นอนลงกับพื้นโดยไม่ปรากฏว่ามีสาเหตุกับ ป. แต่อย่างใด ทั้งในระหว่างที่วิ่งไล่ตามไปนั้นหากมีเจตนาฆ่า จำเลยที่ 2 ซึ่งมีเหล็กแหลมเป็นอาวุธคงจะแทง ป. แล้ว และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ก็น่าจะทำอะไรมากกว่านั้น แต่หาได้กระทำไม่ การที่จำเลยที่ 3 ส่งเหล็กแป๊ปน้ำให้จำเลยที่ 1 ก็ไม่แน่ว่าส่งให้โดยมีเจตนาให้ใช้ฆ่า ป. และขณะที ป. ถูกจับจนล้มลง หากจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 มีเจตนาร่วมกันฆ่า ป. ก็คงจะรุมทำร้าย ป. เสียในตอนนั้นแล้ว คงจะไม่ปล่อยให้ ป.ยืนขึ้นจนถูกจำเลยที่ 1 ใช้เหล็กแป๊ปน้ำตีที่ศีรษะด้านหลังซึ่งถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ร่วมกันจับ ป. ไว้ให้จำเลยที่ 1ตี และเมื่อ ป. ยืนขึ้นแล้ววิ่งหนี จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4ก็ไม่ได้ไล่ตามไปทำร้าย ป. ซ้ำอีก พฤติการณ์เช่นนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่า ป.คงฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้งสามมีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้าย ป.เท่านั้น เมื่อผลการทำร้ายเป็นเหตุทำให้ ป. ถึงแก่ความตายจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 จึงมีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคแรกประกอบด้วยมาตรา 83.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290

ผู้พิพากษา

ไมตรี กลั่นนุรักษ์
บุญส่ง คล้ายแก้ว
นำชัย สุนทรพินิจกิจ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android