คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2532

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีละเมิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตแต่ถ้าโจทก์จะยื่นคำฟ้องต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้น เมื่อโจทก์ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องแสดงให้เห็นว่าการพิจารณาคดีในศาลนั้น ๆ จะเป็นการสะดวกศาลจะใช้ดุลพินิจอนุญาตก็ได้ การพิจารณาจะสะดวกหรือไม่นั้นต้องคำนึงถึงคู่ความและพยานที่เกี่ยวข้องด้วย ปรากฏตามคำฟ้องว่ารถยนต์โดยสารที่จำเลยที่ 1 ขับจากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าไปจังหวัดเชียงใหม่ชนกับรถยนต์ของโจทก์ที่ 2 ที่จังหวัดนครสวรรค์ พยานที่รู้เห็นส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในรถยนต์ทั้งสองคัน ซึ่งไม่มีภูมิลำเนาในเขตศาลจังหวัดนครสวรรค์การพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ย่อมไม่สะดวกแก่พยาน ประกอบกับโจทก์ที่ 2 แต่ผู้เดียวมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนโจทก์ที่ 1 และจำเลยทั้งสี่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่ง ดังนั้น การฟ้องคดี การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องการต่อสู้คดี และการพิจารณาที่ศาลแพ่งย่อมเป็นการสะดวกแก่คู่ความอื่นทั้งหมดเว้นแต่โจทก์ที่ 2 ผู้เดียว ศาลจึงชอบที่จะใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตให้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4

ผู้พิพากษา

พนม พ่วงภิญโญ
สุทิน นนทแก้ว
บุญส่ง วรรณกลาง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android