คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3776/2531

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยมิได้ให้การโดยชัดแจ้งว่า การกระทำต่าง ๆ ของจำเลยเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของบริษัท ฟ. ซึ่งอยู่ต่างประเทศไม่มีประเด็นที่ศาลชั้นต้นจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการต่าง ๆในประเทศไทยในฐานะตัวแทนของบริษัทฟ. หรือไม่ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยให้ จำเลยมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการขนส่ง บริษัทฟ.ซึ่งเป็นผู้ขนส่งไม่มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย แต่ได้มอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินการติดต่อกับหน่วยราชการต่าง ๆ ในประเทศไทยเพื่อนำเรือบรรทุกสินค้าของบริษัทฟ. เข้าออกท่าเรือกรุงเทพ ขนสินค้าลงจากเรือและแจ้งการมาถึงของเรือให้เจ้าของสินค้าหรือผู้รับตราส่งทราบ ตลอดจนออกใบปล่อยสินค้าให้แก่ผู้รับตราส่งไปรับสินค้าออกจากท่าเรือ เมื่อปรากฏว่า จำเลยได้แจ้งวันที่เรือสินค้าจะมาถึงท่าเรือกรุงเทพให้ผู้รับตราส่งทราบ เป็นผู้ขออนุมัตินำเรือเข้าเทียบท่าและแจ้งหน่วยราชการต่าง ๆ เกี่ยวกับการขออนุญาตเปิดระวางเรือและขนถ่ายสินค้า ขอเช่าเครื่องมืออุปกรณ์การขนถ่ายสินค้า รับคืนใบตราส่งแลกกับใบปล่อยสินค้า และเพื่อให้ผู้รับตราส่งนำไปขอรับสินค้าจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยมิฉะนั้นจะรับสินค้าไม่ได้ การดำเนินงานของจำเลยในช่วงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญของการขนส่งอันจะทำให้สินค้าที่ขนส่งมาถึงผู้รับตราส่ง และจะขาดช่วยนี้เสียมิได้ มิฉะนั้นการขนส่งจะชะงักนอกจากนี้เมื่อผู้ส่งยังไม่ได้ชำระค่าระวางในการขนส่งโดยให้มาเก็บค่าระวางปลายทาง จำเลยก็มีสิทธิเก็บค่าระวางขนส่งเสียก่อนที่จะออกใบปล่อยสินค้าให้ผู้รับตราส่ง ส่วนบุคคลผู้ที่ขนถ่ายสินค้าลงจากเรือไม่ว่าจำเลยจะใช้พนักงานของจำเลยหรือผู้อื่นทำการขนถ่ายก็ต้องอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยซึ่งเป็นเรื่องวิธีดำเนินการค้าระหว่างบริษัทฟ. กับจำเลยโดยจำเลยได้รับบำเหน็จจากทางการค้าตามปกติของตน จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้ทำการขนส่ง นอกจากจำเลยจะดำเนินการดังกล่าวแก่สินค้าขาเข้าแล้ว จำเลยยังดำเนินการเกี่ยวกับการขนสินค้าขาออกจากประเทศไทยให้แก่บริษัทฟ. ด้วย พฤติการณ์ที่จำเลยเข้าเกี่ยวข้องดำเนินงานดังกล่าวเป็นลักษณะร่วมประกอบธุรกิจขนส่งด้วยกันอันเป็นการขนส่งหลายทอดตามวิธีการขนส่งทางทะเลโดยจำเลยเป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้าย จำเลยจึงต้องร่วมรับผิดในการสูญหายหรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยให้การว่า ผู้ส่งทำการบรรจุหีบห่อสินค้าไม่ดี เมื่อสินค้าสูญหายไปในระหว่างขนส่ง ผู้ส่งจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบบริษัทฟ. ผู้ขนส่งหรือจำเลยไม่ต้องรับผิด แต่จำเลยอุทธรณ์ว่าการซื้อขายสินค้าพิพาทเป็นการซื้อขายระบบซีแอนด์เอฟซึ่งสิทธิทั้งหลายจะตกแก่ผู้รับตราส่งเมื่อของหรือสินค้าได้ถึงตำบลที่กำหนดให้ส่งและผู้รับตราส่งได้เรียกให้ส่งมอบของหรือสินค้าแล้ว แต่ปรากฏว่าสินค้าพิพาทสูญหายก่อนส่งมอบให้แก่ผู้รับตราส่งจึงเป็นเรื่องที่ผู้ส่งจะต้องไปว่ากล่าวกับผู้ขนส่งผู้รับตราส่งยังไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขนส่ง เช่นนี้เห็นได้ชัดว่าข้ออุทธรณ์ของจำเลยไม่ตรงกับที่จำเลยให้การไว้ จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยให้ ภาระการพิสูจน์ว่าสินค้าที่ขนส่งสูญหายไปเพราะสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616 ตกแก่ผู้ขนส่งแม้จะปรากฏว่าขณะเรือบรรทุกสินค้ารายพิพาทมาได้ถูกมุรสมอย่างรุนแรงระหว่างทางก็ตาม แต่ผู้ขนส่งไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาแสดงให้เห็นว่า หีบที่บรรจุสินค้ารายพิพาทได้แตกและสินค้าได้สูญหายไปเพราะเรือโดนมรสุมดังกล่าว และไม่มีพยานยืนยันแน่ชัดว่าหีบที่บรรจุสินค้าพิพาทแตกชำรุดขณะใด จึงยังถือไม่ได้ว่าสินค้าพิพาทได้สูญหายไปเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ผู้ขนส่งต้องรับผิดเพื่อความสูญหายนั้น
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 608
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225

ผู้พิพากษา

สมศักดิ์ จูสวัสดิ์
สุชาติ จิวะชาติ
เสงี่ยม ทวีชัยการ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android