คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5925/2538

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้โจทก์ที่ 2 จะมิใช่ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่โจทก์ที่ 2 เป็นผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยผู้รับประกันภัยโดยตรง และเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 เมื่อมีข้อพิพาทโต้แย้งสิทธิกันขึ้นตามสัญญาประกันภัย โจทก์ที่ 2 ในฐานะคู่สัญญาย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญาประกันภัยรถยนต์กับโจทก์ที่ 2โดยมีโจทก์ที่ 1 เป็นผู้รับประโยชน์จริง เช่นนี้สัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์ที่ 2 กับจำเลยจึงเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์แก่โจทก์ที่ 1ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เมื่อรถยนต์ที่โจทก์ที่ 2 เอาประกันภัยไว้แก่จำเลยสูญหายไปเพราะถูก ท. ยักยอกเอาไป จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ 2 ตามสัญญาประกันภัยนั้น โจทก์ที่ 2 จึงมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยใช้เงินตามกรมธรรม์ประกันภัยแก่โจทก์ที่ 1 ผู้รับประโยชน์ได้ แม้โจทก์ที่ 2 จะไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 1 ก็ตาม จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่า โจทก์ที่ 2 ผู้เอาประกันภัยมิได้ฟ้องร้องหรือติดตามเอาคืนจาก ท. กลับมาฟ้องเรียกร้องเอาจากจำเลยเป็นการกระทำไม่สุจริตเท่านั้น คำให้การของจำเลยดังกล่าวยังไม่ชัดเจนถึงขนาดว่าวินาศภัยซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริตของโจทก์ที่ 1 ผู้เอาประกันภัยอันจะเป็นเหตุให้จำเลยผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879 วรรคแรก และศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดประเด็นข้อนี้เป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ อีกทั้งจำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านปัญหาเรื่องความไม่สุจริตของโจทก์ที่ 2จึงไม่เป็นประเด็นพิพาทในคดี ความเสียหายหรือความสูญหายตามคำฟ้องโจทก์เกิดจากการยักยอกทรัพย์ของ ท. ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้ยืมรถยนต์นั้นจากโจทก์ที่ 2ผู้เช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ที่ 1 ท. มิใช่เป็นผู้เช่าซื้อ ผู้เช่าผู้รับจำนำหรือผู้ซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ ทั้งมิใช่ผู้ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่า เช่าซื้อ ซื้อขาย หรือสัญญาจำนำการที่รถยนต์ซึ่งจำเลยรับประกันไว้ถูก ท. ยักยอกเอาไปจึงไม่อยู่ในเงื่อนไขข้อจำกัดความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย หากจะตีความเจตนาของคู่สัญญาตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวแล้ว ยิ่งเห็นได้ชัดว่าโจทก์ที่ 2 เอาประกันภัยรถยนต์ไว้กับจำเลยตามความประสงค์ของโจทก์ที่ 1 ก็เพื่อคุ้มครองรถยนต์ที่โจทก์ที่ 2 เช่าซื้อมาจากโจทก์ที่ 1 ซึ่งหากเกิดความเสียหายใดแก่รถยนต์ที่โจทก์ที่ 2เช่าซื้อมา โจทก์ทั้งสองย่อมประสงค์จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 171
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 879
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183

ผู้พิพากษา

ปราโมทย์ ชพานนท์
นิเวศน์ คำผอง
ไพโรจน์ คำอ่อน

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android