คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2534

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนยกบ้านพิพาทให้ผู้ร้องหลังจากที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 นำบ้านพิพาทไปเป็นประกันเงินกู้แก่โจทก์จากนั้นจำเลยที่ 2 ยังคงอยู่ในบ้านพิพาทตามเดิม พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 2 จดทะเบียนยกบ้านให้ผู้ร้องเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับคดีเท่านั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่มีทรัพย์สินอื่นอีกการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตเป็นเหตุให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ย่อมขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนบ้านพิพาทได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 กรณีเป็นการพิจารณาชั้นบังคับคดี ซึ่งเจตนารมณ์ของการบังคับคดียอมให้ว่ากล่าวเรื่องการโอนโดยไม่สุจริตได้ภายหลังการยึดทรัพย์แล้วศาลจึงมีอำนาจชี้ขาดเรื่องเพิกถอนการฉ้อฉลในคดีร้องขัดทรัพย์ได้โดยไม่จำต้องให้โจทก์ไปดำเนินการฟ้องร้องขอให้ทำลายการโอนหรือเพิกถอนการฉ้อฉลก่อน
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288

ผู้พิพากษา

อุไร คังคะเกตุ
ไมตรี กลั่นนุรักษ์
จรัส อุดมวรชาติ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android