คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2539

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 28 พ.ย. 2551 10:53:34

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยกับ ต. ได้ทำสัญญาก่อสร้างอาคาร มีสาระสำคัญว่าให้ ต. เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายและดำเนินการก่อสร้างตึกแถวและทาวน์เฮาส์รวม 92 ห้อง บนที่ดินของจำเลยให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นับแต่วันทำสัญญา หากสร้างไม่ทันตามกำหนดก็ให้ยืดเวลาต่อไปอีก 1 ปี นอกจากนี้ ต. ต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนให้จำเลยอีก 8,500,000 บาท และส่งมอบตึกแถวที่ก่อสร้างให้แก่จำเลย 2 ห้อง จำเลยยอมให้ ต. มีสิทธิหาคนเช่าและเรียกเงินค่าช่วยก่อสร้างจากผู้มาจองเช่าได้ภายในระยะเวลาที่ดำเนินการก่อสร้างดังกล่าว โดยจำเลยมีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้มาจองเช่ามีกำหนด 25 ปีสัญญาก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นกรณีที่จำเลยตกลงว่าจะจดทะเบียนการเช่าให้แก่บุคคลภายนอก จึงเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 โจทก์ทั้งสี่เป็นผู้เช่าจองอาคารกับ ต. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกย่อมมีสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้ได้และการบอกกล่าวให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าเป็นการแสดงเจตนากับจำเลยว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นแล้ว โดยโจทก์ทั้งสี่ไม่จำต้องครอบครองอาคารพิพาท ชำระค่าเช่า และภาษีโรงเรือนแก่จำเลยแต่อย่างใด โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าได้มอบอำนาจให้ ต. ฟ้องคดีแทนจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธว่า โจทก์มิได้มอบอำนาจดังกล่าวไว้คดีจึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยเรื่องมอบอำนาจว่าทำขึ้นโดยชอบหรือไม่ คงฟังได้ว่ามีการมอบอำนาจโดยชอบแล้วจึงไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องการขีดฆ่าอากรแสตมป์ตามที่จำเลยฎีกามา ตามสัญญาก่อสร้างอาคารระบุว่า "เมื่อผู้เช่ามาติดต่อขอเช่าและผู้จัดสร้างได้รับเงินแล้ว ผู้ให้สร้างจะไปทำสัญญาให้แก่ผู้เช่ามีกำหนดเวลาเช่า 25 ปี โดยการจดทะเบียนเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบของสัญญาเช่าซึ่งได้แนบมาพร้อมนี้ทั้งนี้ ผู้ให้สร้างจะไปทำสัญญาภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่ผู้จัดสร้างบอกกล่าวให้ผู้ให้สร้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษร"ข้อความดังกล่าวมีความชัดเจนว่า ระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันที่จำเลยได้รับคำบอกกล่าวนั้นเป็นระยะเวลาที่จำเลยจะดำเนินการในเรื่องจดทะเบียนการเช่า หาใช่เป็นระยะเวลาเริ่มต้นของการนับอายุการเช่าไม่ ส่วนตามสัญญาจองเช่าอาคารที่ ต. ทำไว้กับโจทก์ทั้งสี่ระบุว่า "สัญญาเช่ามีกำหนด 25 ปีนับแต่วันทำการจดทะเบียนการเช่า ณ ที่ทำการเขต" นั้นมีข้อความชัดอยู่แล้วให้นับอายุการเช่า 25 ปี เริ่มแต่วันจดทะเบียนการเช่าเป็นต้นไป ซึ่งข้อความตามสัญญาก่อสร้างอาคารดังกล่าวหาได้ขัดแย้งกับสัญญาจองเช่าอาคารไม่ กรณีจึงไม่ใช่ให้นับแต่วันที่จำเลยได้รับคำบอกกล่าว โจทก์เป็นบุคคลภายนอกซึ่งถือเอาประโยชน์ตามสัญญาก่อสร้างอาคาร การที่โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่โจทก์ จึงเป็นการอาศัยสิทธิตามสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 ซึ่งมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 หาใช่เป็นสัญญาจ้างทำของซึ่งมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(11) เมื่อนับแต่วันที่โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวแจ้งให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าจนถึงวันฟ้องยังไม่พ้น 10 ปี คดีของโจทก์ทั้งสี่จึงไม่ขาดอายุความ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 10
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165

ผู้พิพากษา

ณรงค์ ตันติเตมิท
บุญธรรม อยู่พุก
ปรีชา บูรณะไทย

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android