คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3416/2535

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้ผู้ร้องจะอ้างว่า ต. ได้ทำสัญญาเรื่องจะขายที่ดินพิพาทไว้ให้แก่ผู้ร้องและสามีตามเอกสารหมาย ร.1 ก็ตาม แต่เอกสารดังกล่าวคงมีแต่ ต. ลงลายมือชื่อเป็นผู้จะขายและผู้เขียนสัญญาฝ่ายเดียว ส่วนผู้ร้องและสามีผู้ร้องกลับไม่ได้ลงลายมือชื่อเป็นคู่สัญญาดังกล่าวนั้นด้วย สัญญาดังกล่าวจึงรับฟังได้แต่เพียงว่าเป็นคำมั่นของ ต. ว่าจะขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ร้องและสามีเท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า ผู้ร้องและสามีได้บอกกล่าวความจำนงว่าจะทำการซื้อขายนั้นให้สำเร็จต่อไป และคำบอกกล่าวเช่นนั้นได้ไปถึง ต.แล้วคำมั่นของต. ดังกล่าวจึงยังไม่มีผลเป็นการซื้อขายตาม ป.พ.พ. มาตรา 454 วรรคแรก ดังนั้น จะฟังว่าสัญญาเรื่องจะขายที่ดินเป็นหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างต. กับผู้ร้องและสามีไม่ได้ การที่ผู้ร้องและสามีเข้าไปยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทของ ต. จึงมิได้เป็นการยึดถือครอบครองแทน ต. โดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเรื่องจะขายที่ดินตามเอกสาร กรณีของผู้ร้องและสามีจึงหาจำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือไปยัง ต.หรือทายาทของต. ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1381 ไม่ เมื่อผู้ร้องและสามียึดถือครอบครองที่ดินของต. ไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 454
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

ผู้พิพากษา

โสภณ จันเทรมะ
เกียรติ จาตนิลพันธุ์
ไพฑูรย์ เนติโพธิ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android