คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9059/2539

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
พินัยกรรมตามเอกสารหมายค.8นั้นผู้ร้องเบิกความว่าพินัยกรรมฉบับนี้ถูกเพิกถอนไปแล้วโดยผู้ร้องเป็นผู้ขีดฆ่าและเขียนยกเลิกพินัยกรรมต่อหน้าผู้ตายแม้จะเป็นจริงดังว่าก็มิใช่การทำลายหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจของผู้ตายซึ่งเป็นผู้ทำพินัยกรรมเองอันเป็นการเพิกถอนพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1695วรรคหนึ่งพินัยกรรมเอกสารหมายค.8จึงยังมีผลใช้บังคับได้ ส่วนพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองตามเอกสารหมายค.3นั้นแม้จะปรากฏว่าต่อมาผู้ตายได้ทำคำร้องและบันทึกขอถอนพินัยกรรมโดยอ้างว่าจะยกเลิกพินัยกรรมดังกล่าวและรับพินัยกรรมคืนไปแล้วก็ตามแต่ไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้ทำลายหรือขีดฆ่าต้นฉบับกับคู่ฉบับของพินัยกรรมอันจะมีผลให้เป็นการเพิกถอนพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1695วรรคหนึ่งพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองตามเอกสารหมายค.3จึงยังมีผลบังคับอยู่เช่นกัน เมื่อพินัยกรรมของผู้ตายทั้งฉบับเอกสารหมายค.8และฉบับเอกสารหมายค.3ยังมีผลบังคับอยู่ทั้ง2ฉบับทั้งพินัยกรรมตามเอกสารหมายค.3ซึ่งทำในภายหลังมิได้มีข้อความตอนใดระบุให้เพิกถอนพินัยกรรมตามเอกสารหมายค.8เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่นและปรากฏว่าพินัยกรรมฉบับก่อนกับฉบับหลังขัดกันประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1697ให้ถือว่าพินัยกรรมฉบับก่อนเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลังเฉพาะในส่วนที่มีข้อความขัดกันเท่านั้นจึงถือว่าพินัยกรรมฉบับเอกสารหมายค.8เป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับเอกสารหมายค.3เฉพาะข้อกำหนดพินัยกรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ดิน2แปลงตามข้อ2และข้อ3เท่านั้นที่พินัยกรรมเอกสารหมายค.3ระบุให้ตกแก่ผู้ร้องและให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมฉบับนี้ซึ่งย่อมหมายถึงให้ผู้ร้องมีสิทธิจัดการมรดกเฉพาะที่ดินทั้ง2แปลงดังกล่าวส่วนทรัพย์มรดกอื่นๆคงเป็นไปตามข้อกำหนดในพินัยกรรมตามเอกสารหมายค.8ข้อ4ถึงข้อ11ซึ่งกำหนดให้ผู้คัดค้านที่4เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมฉบับดังกล่าวผู้ร้องซึ่งไม่ปรากฏว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกเฉพาะที่ดินทั้ง2แปลงตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรมตามเอกสารหมายค.3ตามเจตนาของผู้ตายในข้อกำหนดพินัยกรรมข้อ2 ในชั้นต้นผู้คัดค้านที่1และที่2ยื่นคำร้องคัดค้านการขอตั้งผู้จัดการมรดกโดยผู้ร้องและขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่3เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกผู้คัดค้านที่1และที่2ยื่นอุทธรณ์ขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่1และที่2เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ตั้งผู้คัดค้านที่4เป็นผู้จัดการมรดกซึ่งก็ตรงกับความประสงค์แต่แรกของผู้คัดค้านที่1และที่2แต่ในชั้นนี้ผู้คัดค้านที่1และที่2กลับยื่นฎีกาขอให้ตั้งผู้คัดค้านที่1และที่2เป็นผู้จัดการมรดกหรือเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องจึงเป็นได้ว่าฎีกาของผู้คัดค้านที่1และที่2เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1695
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1697
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ผู้พิพากษา

ระพินทร บรรจงศิลป
อำนวย สุขพรหม
ปรีชา นาคพันธุ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android