คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2542

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
บรรยายฟ้องว่า ได้ทางภารจำยอมมาโดยอายุความนั้นรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อที่ดินตามโฉนดต่าง ๆ ที่โจทก์ฟ้องและส่วนใดที่ได้ภารจำยอมในที่ดินของจำเลยเป็นรายละเอียดที่โจทก์จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา แม้มิได้บรรยาย ฟ้องของโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 กำหนดว่าการที่จะมีภารจำยอมได้จะต้องมีที่ดินสองแปลง โดยที่ดินแปลงหนึ่งตกอยู่ในภารจำยอมของที่ดินอีกแปลงหนึ่ง และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 กำหนดว่าการที่จะได้ภารจำยอมโดยอายุความจะต้องเป็นการใช้เพื่อตน มิใช่เป็นการอาศัย ก่อนปี 2518 ทางพิพาทอยู่ในที่ดินของผู้มีชื่อซึ่งเป็นแปลงเดียวกันยังมิได้แบ่งแยก การใช้ทางพิพาทช่วงนี้จึงเป็นการใช้ในฐานะอาศัยเจ้าของที่ดิน ไม่เป็นการใช้สิทธิภารจำยอม ต่อมาภายหลังผู้มีชื่อได้แบ่งแยกที่ดินบางส่วนให้แก่โจทก์โดยพวกของโจทก์ได้ซื้อที่ดินจากโจทก์ และทางพิพาทอยู่ในที่ดินของจำเลย โจทก์กับพวกได้ใช้ทางพิพาทเดินเข้าออกสู่ทางสาธารณะเรื่อยมาเป็นระยะเวลาเกิน 10 ปีแล้วโดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งทักท้วงและโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใดทางพิพาทจึงตกเป็นทางภารจำยอมโดยอายุความได้สิทธิแก่โจทก์กับพวกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172

ผู้พิพากษา

กมล เพียรพิทักษ์
สกนธ์ กฤติยาวงศ์
ทองหล่อ โฉมงาม

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android