คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1186/2542

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันพยานโจทก์และโจทก์ร่วม ทั้งสามมีโอกาสได้เห็นหน้าจำเลยในลักษณะเต็มใบหน้าในท่าตรง ในระยะใกล้เป็นเวลานานพอสมควร เมื่อเจ้าพนักงาน ตำรวจจับกุมจำเลยได้ พยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสาม ก็สามารถชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้องโดยระบุว่าจำเลยไม่ใช่ คนร้ายที่ใช้มีดแทงผู้ตาย แต่เป็นคนนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ไปกับคนร้ายที่ใช้มีดแทงผู้ตาย พยานโจทก์ และโจทก์ร่วมทั้งสามเบิกความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ประกอบ กับพยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสามไม่มีสาเหตุโกรธเคือง กับจำเลยจึงไม่มีเหตุที่พยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสามจะ แกล้งเบิกความปรักปรำจำเลยให้ต้องรับโทษคำเบิกความ ของพยานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสามจึงมีน้ำหนักฟังได้ จำเลยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับคนร้ายอีก 2 คนและหลังจากคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์เป็นคนที่สองใช้มีดแทงผู้ตายแล้ว จำเลยนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์หลบหนีไปกับคนร้าย 2 คนนั้นด้วย แสดงให้เห็นว่าจำเลยร่วมรู้เห็นกับคนร้ายในการไปฆ่าผู้ตาย เพราะตามปกติ วิสัยคนร้ายที่จะไปกระทำความผิดจะไม่นำบุคคล ที่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันไปด้วยเพื่อให้รู้เห็นการกระทำ ความผิดของตน และการที่คนร้ายใช้มีดแทงผู้ตายก็อยู่ ในความรู้เห็นของจำเลย แต่จำเลยก็ยังนั่งซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์คนร้ายหลบหนีไปด้วยกัน ถือได้ว่าจำเลยได้ร่วม คบคิดกับคนร้ายอีก 2 คน ไปฆ่าผู้ตายมาตั้งแต่ต้น จำเลยจึงมี ความผิดฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227

ผู้พิพากษา

อภิศักดิ์ พรวชิราภา
กนก พรรณรักษา
วิชา มั่นสกุล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android