คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4472/2541

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้ขณะที่จำเลยกระชากกระเป๋าถือของผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้ขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือได้ใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย แต่หลังจากจำเลยกระชากกระเป๋าถือของผู้เสียหายแล้วจำเลยได้วิ่งหนีไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดอยู่ห่างจากที่ผู้เสียหายถูกกระชาก สร้อยเพียง 1 ถึง 2 เมตร เพื่อหลบหนี แต่ถูก ส.วิ่งไปผลักจนรถจักรยานยนต์ล้มลง จำเลยจึงชักอาวุธมีดออกมาจะแทงส. การกระทำของจำเลยดังกล่าวยังต่อเนื่องและเกี่ยวพันกันโดยตลอดและยังไม่ขาดตอนจากการวิ่งราวทรัพย์ ทั้งการที่จำเลยชักอาวุธมีดออกมาจะแทง ส.ทันทีที่ส. ผลักรถจักรยานยนต์ล้มลงนั้น เป็นพฤติการณ์ที่ชี้ชัดว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาขู่เข็ญไม่ให้ ส. ขัดขวางการหลบหนี เพื่อให้พ้นจากการจับกุมและเพื่อการพาทรัพย์ไป และแม้ ส. จะมิใช่ผู้เสียหายแต่เมื่อจำเลยกระทำโดยมีเจตนาดังกล่าวและการกระทำของจำเลยยังไม่ขาดตอนจากการกระชากกระเป๋าถือของผู้เสียหายถือได้ว่าจำเลยกระชากกระเป๋าถือผู้เสียหายโดยขู่เข็ญว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมแล้ว จึงเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339

ผู้พิพากษา

มงคล คุปต์กาญจนากุล
ไพศาล รางชางกูร
พิธี อุปปาติกา

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android