คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7851/2540

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
กรณีที่มีการขายสินค้าหรือการให้บริการก่อนวันที่ 1 มกราคม 2535 แต่การขายสินค้าหรือการให้บริการนั้นยังมิได้เสร็จเด็ดขาดหรือสิ้นสุดลงก่อนวันดังกล่าวผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ขายสินค้าหรือให้บริการจึงไม่มีหน้าที่เสียภาษีการค้าต่อไป แต่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากรได้กำหนดให้ผู้ประกอบการค้าที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7มีหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราดังกล่าวจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการเมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น เมื่อโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาซื้อขายวัสดุก่อสร้างก่อนวันที่ 1 มกราคม 2535แต่การซื้อขายมิได้เสร็จเด็ดขาดก่อนวันดังกล่าวโจทก์ในฐานะผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 จึงมีสิทธิเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 จากจำเลยได้ คดีนี้โจทก์มิได้ฟ้องเรียกราคาค่าสินค้าวัสดุก่อสร้างตามสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลย จึงไม่อาจนำอายุความกำหนด 2 ปี มาใช้บังคับกรณีเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแก่โจทก์ตามที่ประมวลรัษฎากร มาตรา 82/4 กำหนดให้โจทก์มีหน้าที่เรียกเก็บจากจำเลยเพื่อนำไปชำระแก่กรมสรรพากรและโจทก์ได้ชำระแทนจำเลยไปแล้วซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/30 เมื่อนับแต่วันที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นต้นมาจนถึงวันฟ้องไม่เกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30
  • พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 มาตรา 2
  • พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 มาตรา 7
  • พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 มาตรา 8
  • พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 มาตรา 24

ผู้พิพากษา

สุชาติ ถาวรวงษ์
สันติ ทักราล
เหล็ก ไทรวิจิตร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android