คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2611/2533

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่ผู้ร้องมิได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อหรือร้องขอคืนของกลางตั้งแต่ชั้นสอบสวนเพราะพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบสวนเพียงประมาณ1 เดือน มิใช่เวลายาวนานจนถึงกับจะฟังเป็นข้อพิรุธของผู้ร้อง ส่วนการยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางภายหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ริบนั้นก็หาใช่เรื่องผิดปกติไม่เพราะศาลชั้นต้นมิได้สั่งริบรถยนต์ของกลาง
ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกของกลางที่มีผู้เช่าซื้อไป ผู้เช่าซื้อนำรถยนต์คันดังกล่าวให้เช่าซื้อช่วงไปอีกต่อหนึ่ง แม้ตามสัญญาเช่าซื้อที่ผู้ร้องอ้าง ผู้เช่าซื้อมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าซื้ออยู่ตลอดไปจนกว่าจะครบไม่ว่ารถยนต์ของกลางจะถูกศาลสั่งริบหรือไม่ก็ตาม แต่ปรากฏตามสัญญาเช่าซื้อช่วงว่า ผู้เช่าซื้อช่วงยังต้องชำระค่าเช่าซื้อต่อไปอีกหลายงวด การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางในคดีนี้จึงเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้ร้องโดยตรง เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ร้องกับผู้เช่าซื้อมีกิจการเกี่ยวข้องกันหรือมีความสัมพันธ์กันเป็นพิเศษ พฤติการณ์ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยและไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36

ผู้พิพากษา

มนู วงศ์แสงจันทร์
เสริมพงศ์ วรยิ่งยง
ชุม สุกแสงเปล่ง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android