คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2058/2520

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้ขณะทำสัญญาเช่าซื้อ โจทก์ยังไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ที่ให้เช่าซื้อก็ตามแต่จำเลยได้ตกลงให้โจทก์ซื้อทรัพย์นั้นมาให้จำเลยเช่าซื้อ เห็นได้ว่าการทำสัญญาเช่าซื้อนี้เป็นการทำไว้ล่วงหน้า โดยเจตนาให้มีผลบังคับกันในเมื่อเจ้าของทรัพย์ได้ขายทรัพย์ที่จะเช่าซื้อให้โจทก์แล้ว ทั้งเมื่อทำสัญญาแล้วโจทก์ก็ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ดังกล่าว และจำเลยก็ได้ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่บริษัทโจทก์อีกถึง 3 งวด ตามสัญญาเช่าซื้อ ดังนี้จำเลยต้องผูกพันตามสัญญาเช่าซื้อจำเลยจะกลับมาอ้างว่าขณะทำสัญญาโจทก์ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่เช่าซื้อ จึงไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่
โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน และได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน ครั้นถึงวันนัดสืบพยานก่อนศาลเริ่มสืบพยานโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม โดยขออ้างเอกสารเป็นพยาน ซึ่งมีสิทธิยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง แม้โจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารที่ระบุเพิ่มเติมให้จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันตามมาตรา 90 ศาลชั้นต้นก็อาจใช้ดุลยพินิจรับฟังเอกสารดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี อันเป็นอำนาจตามบทบัญญัติของมาตรา 87 (2) ได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90

ผู้พิพากษา

โสพิทย์ คังคะเกตุ
ชลอ จามรมาน
อุดม ทันด่วน

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android