คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4233/2528

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ฟ้องจำเลยรับสารภาพและโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันเดียวกัน ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ในวันนั้นโดยจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยแถลงว่าเมื่อรับสารภาพแล้วขอให้สืบพยานโจทก์ไปได้เลย และเมื่อศาลให้จำเลยดูบัญชีระบุพยานของโจทก์ จำเลยแถลงไม่คัดค้าน ซึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้เป็นไปโดยรวดเร็วตามความประสงค์ของจำเลยทั้งเห็นว่าไม่ทำให้เสียความยุติธรรม ไม่จำต้องรอเวลาให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบ 3 วันตามกฎหมายจึงอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ไปได้ดังนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์สืบพยานโดยไม่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87, 88
ได้มีการถ่ายทอดการพิจารณาคดีโดยโทรทัศน์วงจรปิดปรากฏว่าพยานโจทก์ส่วนใหญ่เบิกความถึงข้อเท็จจริงที่พยานแต่ละคนได้รู้เห็นมาโดยลำพัง หาได้เกี่ยวข้องกับพยานอื่น คงมีแต่พยานโจทก์สามปากที่เบิกความในเรื่องเดียวกัน หากพยานโจทก์สองปากที่เบิกความภายหลังได้ดูการถ่ายทอดการพิจารณาทางโทรทัศน์ ก็อาจทำให้คำของพยานสองปากนี้ตอนที่เกี่ยวกับคำพยานปากก่อนไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ แต่พยานโจทก์สองปากนี้มิได้เป็นพยานที่มีความสำคัญมากนัก แม้ไม่รับฟังพยานโจทก์สองปากนี้ โจทก์ก็ยังมีพยานอื่นที่จะฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลย จึงลงโทษจำเลยได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 114

ผู้พิพากษา

โสภณ รัตนากร
วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์
อำนวย เปล่งวิทยา

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android