คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2537

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
เดิมทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมที่โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยเป็นทางเข้าออกที่ดินของโจทก์สู่ทางสาธารณะเป็นทางเกวียนขนาด กว้าง 2-3 เมตร แต่ในเวลาต่อมาโจทก์ไม่ได้ใช้ทางนี้เป็นทางเกวียน ผ่านเข้าออกเป็นเวลานานถึง 10 ปีแล้ว คงใช้เป็นทางสำหรับคนเดิน ภารจำยอมไม่ว่าจะได้มาโดยนิติกรรมหรือโดยอายุความ ที่เป็นทางเกวียนดังกล่าวย่อมระงับสิ้นไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399 หลังจากนั้น เป็นต้นมาทางที่โจทก์ใช้ที่ดินของทางเข้าออกที่ดินของโจทก์ ย่อมมีสภาพเพียงเป็นทางเดิน อายุความได้สิทธิหรืออายุความเสียสิทธิภารจำยอมมิใช่อายุความฟ้องร้อง ฉะนั้นปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าภารจำยอมสิ้นไปแล้วโดยอายุความ ศาลฎีกาจึงยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1399
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

ผู้พิพากษา

ทองเลื่อน พูลพิพัฒน์
จองทรัพย์ เที่ยงธรรม
สมมาตร พรหมานุกูล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android