คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2523

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ขอส่งสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาเป็นพยานหลักฐานภายหลังที่โจทก์แถลงต่อศาลว่าหมดพยานแล้ว แต่เป็นคำพิพากษาซึ่งศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุกอันเป็นมูลคดีนี้ซึ่งโจทก์ก็ได้กล่าวอ้างผลของคำพิพากษา และหมายเลขคดีอาญานั้นมาในฟ้องแล้วจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธ จึงถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงนั้นแล้ว โจทก์ก็ไม่จำเป็นต้องนำสืบเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนั้นอีก แต่เมื่อโจทก์อ้างส่งและศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมมีอำนาจที่จะรับสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสาม, 87 (2)
เมื่อคดีอาญาดังกล่าวศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกตึกแถวพิพาท คดีถึงที่สุดแล้ว การพิพากษาคดีนี้ซึ่งเป็นคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคดีอาญานั้น
คดีนี้เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาซึ่งจำเลยถูกฟ้องฐานบุกรุกและถูกลงโทษเสร็จเด็ดขาดแล้วก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามมาตรา 168 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 168
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51

ผู้พิพากษา

ภิญโญ ธีรนิติ
ภักดิ์ บุณย์ภักดี
อาจ ปัญญาดิลก

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android