คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2522

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีที่จำเลยทำไว้กับโจทก์และบังคับจำนอง โดยฟ้องกล่าวถึงจำเลยทำสัญญาจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์และจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกิน บัญชีไว้กับโจทก์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2514 จำนวนเงินไม่เกิน 20,000 บาท กำหนดชำระภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากำหนดส่งดอกเบี้ยภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยตามกำหนดยอมให้คิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระทบต้นเข้ากับเงินที่เบิกเกินบัญชีโดยเสียดอกเบี้ยตามวิธีและอัตราดังกล่าวตามสำเนาสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เอกสารท้ายฟ้อง ซึ่งในเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าจำเลยยอมให้ดอกเบี้ยโจทก์ร้อยละสิบสี่ต่อปี และบรรยายต่อไปว่าเมื่อจำเลยนำสัญญาจำนองและเบิกเงินเกินบัญชีแล้ว จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระดอกเบี้ยและต้นเงินแก่โจทก์รวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์คิดเพียงวันที่ 7 กันยายน 2520 เป็นเงิน 63,256.29 บาท ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีนับแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2514 ตลอดมาจนถึงวันที่ 7 กันยายน 2520 โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละสิบสี่ต่อปี และคิดดอกเบี้ยที่ผิดนัดทบเข้ากับต้นเงินเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วจำเลยเป็นหนี้โจทก์รวม 63,256.29 บาท ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว ส่วนที่ว่าจำเลยเบิกเงินจากโจทก์เมื่อไร จำนวนเท่าใด คิดดอกเบี้ยจากยอดต้นเงินเท่าใด คิดจากวันไหนถึงวันไหน นั้นเป็นรายละเอียดที่จะต้องนำสืบ เมื่อมีประเด็นโต้เถียงกันแม้โจทก์ไม่บรรยายข้อความดังกล่าวในคำฟ้องและไม่แสดงบัญชีเดินสะพัด ฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 846
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172

ผู้พิพากษา

ไพบูลย์ เพียรรู้จบ
วิถี ปานะบุตร
อำนัคฆ์ คล้ายสังข์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android