คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2545

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินสองแปลง แต่ไม่สามารถจดทะเบียนโอนที่ดินแก่กัน ตามกำหนดนัดที่ตกลงกันไว้ได้ เพราะยังโต้เถียงกันไม่เป็นที่ยุติว่าผู้ใดจะเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากร ซื้อขายและค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์ในคดีก่อน ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์ จดทะเบียนโอนที่ดินทั้งสองแปลงให้แก่จำเลย โดยให้โจทก์เป็นฝ่ายชำระค่าธรรมเนียมการโอนค่าอากรและค่าภาษี ในส่วนที่เกี่ยวกับราคาซื้อขายตามบัญชีกำหนดจำนวนทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินที่กำหนดไว้สำหรับที่ดินทั้งสองแปลง และกำหนดให้โจทก์และจำเลยชำระค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากรและค่าภาษีในส่วนที่เกินจากราคาประเมินดังกล่าวฝ่ายละครึ่ง เมื่อปรากฎว่า ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากรและค่าภาษีในการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาทเกินกว่าราคาประเมิน แม้โจทก์จะได้ออกเงินค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากร และค่าภาษีในการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาทในส่วนที่เกินราคาประเมินไปแต่ผู้เดียว จำเลยก็มีความผูกพันตามคำพิพากษาที่จะต้องชำระคืนให้แก่โจทก์กึ่งหนึ่ง ก่อนจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาท โจทก์ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาทให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยจึงไม่อาจอ้างว่าโจทก์สมัครใจชำระค่าธรรมเนียมการโอนค่าอากร และค่าภาษีทั้งหมดแต่ผู้เดียว และไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระครึ่งหนึ่ง เพราะจำเลยไม่สมัครใจได้การที่โจทก์แจ้งให้จำเลยทราบก็เพื่อให้จำเลยเตรียมเงินมาชำระในส่วนของจำเลยในวันโอน เมื่อจำเลยไม่ได้เตรียมเงินมาและจำเลยยืนยันไม่ยอมออกค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากร ค่าภาษีของจำเลยครึ่งหนึ่ง โจทก์ก็มีสิทธิที่จะไม่โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์พิพาทให้แก่จำเลยได้ เพราะตามคำพิพากษาเป็นเรื่องต้องปฏิบัติตอบแทนกัน เมื่อฝ่ายใดไม่ปฏิบัติ อีกฝ่ายก็ย่อมไม่ปฏิบัติได้ กรณีแสดงให้เห็นว่าจำเลยยอมให้โจทก์ออกเงินส่วนที่จำเลยจะต้องชำระแทนจำเลยไปก่อน
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369

ผู้พิพากษา

สุพัฒน์ บุญยุบล
สายันต์ สุรสมภพ
พิชิต คำแฝง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android