คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8158/2544

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยต้องการวางแผนการกระทำผิดมิให้มีผู้อื่นมาขัดขวาง หลังเกิดเหตุจำเลยก็หลบหนีไป เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้หลังเกิดเหตุเพียง 6 วัน พร้อมของกลางที่ยึดคืนมาได้หลายรายการที่เป็นหลักฐานชี้ชัดว่าจำเลยได้กระทำผิดแม้จำเลยไม่ให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาของศาล จำเลยก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธให้เห็นเป็นอย่างอื่นได้ จำเลยจึงรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน
จำเลยกับพวกวางแผนจับ ณ. และ ป. ผู้ตายทั้งสองเพื่อบังคับให้ออกเช็ค เมื่อผู้ตายทั้งสองออกเช็คแล้วก็ยังฆ่า ผู้ตายอีก ส่อแสดงถึงเจตนาร้ายมาแต่ต้น การฆ่าโดยใช้ค้อนปอนด์ซึ่งใช้ทุบพื้นซีเมนต์ทุบตีที่บริเวณต้นคอด้านหลังขณะที่ ณ. ถูกขึงพื่าดนอนคว่ำหน้าบนเตียงนอนและใช้เชือกไนล่อนรัดคอผู้ตายทั้งสองซ้ำในสภาพที่ผู้ตายถูกมัดมือ มัดเท้าเป็นวิธีการฆ่าที่ดุร้ายยิ่งกว่าการทำให้ตายตามปกติธรรมดาส่อแสดงว่าจำเลยกับพวกมีจิตใจโหดร้ายอำมหิตผิดมนุษย์ทั่วไป ถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย
โจทก์บรรยายฟ้องในส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ว่าร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาต หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืน ฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน และกระทำทารุณโหดร้ายเพื่อจะเอาไว้ซึ่งทรัพย์สินอันเกิดแต่การปล้นทรัพย์ ปกปิดความผิดอื่นของตนและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ซ้อนเร้นหรือทำลายศพ ปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อ. มาตรา 339 วรรคท้าย กับฐานอื่นดังกล่าวทุกฐานความผิด และลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด ดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 3 ลงโทษเฉพาะฐานใช้ตั๋วเงินปลอม แสดงว่าศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1ฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืน และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ฐานเป็นตัวการร่วมกระทำผิด กับจำเลยที่ 1 ฐานทุกความผิดแล้วที่โจทก์ร่วมฎีกาว่า พยานหลักฐานที่โจทก์และ โจทก์ร่วมนำสืบฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืน ตาม ป.อ. มาตรา 340 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 340 ตรี จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ทุกฐานความผิดจึงต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 220
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ผู้พิพากษา

ประพันธ์ ทรัพย์แสง
พันธาวุธ ปาณิกบุตร
ดลจรัส รัตนโศภิต

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android