คำพิพากษาย่อสั้น
การอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์หรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ตามที่เห็นสมควร เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นสมควรไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสี่สำนวนถอนอุทธรณ์ในคดีนี้ ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งไม่อนุญาตได้
โจทก์ทั้งสี่ได้เช่าตึกแถวพิพาทจาก พ. มีกำหนดครั้งละ 10 ปีโดยไม่ปรากฏว่าก่อนหรือหลังจากที่ พ. ให้โจทก์ทั้งสี่เช่าได้มีการก่อสร้างหรือต่อเติมตึกแถวพิพาท คงได้ความแต่เพียงว่าโจทก์ทั้งสี่ให้เงินตอบแทนแก่ พ. เพื่อขอทำสัญญาเช่าต่อจากสัญญาเดิมไปอีก 10 ปี โดยโจทก์แต่ละคนชำระเงินคนละ 100,000 บาทดังนั้น เงินที่โจทก์ทั้งสี่อ้างว่าให้แก่ พ. จึงหาใช่เงินช่วยก่อสร้างตึกแถวพิพาทอันจะทำให้สัญญาระหว่างโจทก์ทั้งสี่กับ พ. เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่
โจทก์ทั้งสี่กับ พ. เพียงแต่ทำหนังสือสัญญาเช่ามีกำหนด 10 ปีโดยนำไปยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วแต่ยังมิได้มีการจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เนื่องจาก พ. ถึงแก่กรรมเสียก่อน การจดทะเบียนสิทธิการเช่ารายพิพาทนี้จึงยังไม่บริบูรณ์จนกว่าจะได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ข้อตกลงเช่ากันใหม่อีก 10 ปี จึงไม่สมบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 538 โจทก์ทั้งสี่จะอ้างระยะเวลาเช่า 10 ปี มาใช้ยันแก่จำเลยหาได้เพราะต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว เมื่อสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าซึ่งเป็นการเช่าธรรมดาอันมิใช่สัญญาต่างตอบแทนและสัญญาเช่าดังกล่าวก็ยังมิได้จดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ. มาตรา 538 โจทก์ทั้งสี่จะบังคับให้จำเลยในฐานะทายาทหรือผู้จัดการมรดกของ พ. จดทะเบียนการเช่าให้แก่โจทก์ทั้งสี่หาได้ไม่