คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2785/2540

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยครอบครองผงยาที่ใส่ซองบุหรี่นำมาจากที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาต และยาจำนวนนี้เจ้าพนักงานผู้ตรวจพิสูจน์นำไปตรวจพิสูจน์รวมกับของกลางอีกจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อแยกธาตุแล้วไม่สามารถทราบได้โดยแน่ชัดว่ามีสารบริสุทธิ์ของอีเฟดรีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และมอร์ฟีนซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 อยู่เป็นจำนวนเท่าใด จึงต้องฟังว่าอีเฟดรีนและมอร์ฟีนที่จำเลยครอบครองนั้นไม่สามารถคำนวณปริมาณที่แน่นอนได้ แม้เจ้าพนักงานตำรวจค้นพบยา 3 เม็ด ซึ่งเป็นเมทแอมเฟตามีน และผงยาในซองบุหรี่ซึ่งมีอีเฟดรีนและมอร์ฟีนจากจำเลย แต่เมื่อจำเลยไม่ทราบว่าผงยาของกลางมีมอร์ฟีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ผสมอยู่ด้วย ดังนี้ จะถือว่าจำเลยรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานมีมอร์ฟีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้ เมื่อจำเลยขาดเจตนามีมอร์ฟีนดังกล่าวไว้ในครอบครองตาม ป.อ.มาตรา 59 วรรคสาม การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานมีมอร์ฟีนอันเป็นยาเสพติดในประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีอีเฟดรีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมายเท่านั้น
จำเลยที่ 3 เพิ่งนำผงยาสีน้ำตาลซึ่งมีอีเฟดรีนรวมอยู่ด้วยบรรจุอยู่ในซองบุหรี่มาจากบริเวณบ่อเลี้ยงกุ้งที่เกิดเหตุ อันเป็นผงยาคนละจำนวนกับเมทแอมเฟตามีน 3 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองอยู่แล้ว การกระทำของจำเลยที่มีอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเป็นการกระทำที่มีเจตนาต่างกันกับที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง ความผิดดังกล่าวจึงเป็นความผิด 2 กรรมต่างกัน
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
  • พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 62 วรรรคหน
  • พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 62 วรรรคหน

ผู้พิพากษา

ดำรุพงศ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
ทวีชัย เจริญบัณฑิต
พิชัย เตโชพิทยากูล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android