คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2506

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ที่ดินมีตราจองออกโดยชอบเมื่อ พ.ศ. 2465 และเมื่อ พ.ศ. 2468 ได้บันทึกไว้ว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ต่อมาได้ถูกโอนกันมาหลายทอดจนกระทั่ง พ.ศ. 2495 จึงตกมาเป็นของโจทก์ โดยโจทก์รับซื้อฝากไว้โดยสุจริตจาก จ. เจ้าของเดิม และการซื้อขายฝากนี้กระทำกันโดยจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานทะเบียนที่ดิน จำเลยทั้งสามเป็นฝ่ายครอบครองที่ดินรายเดียวกันนี้โดยจำเลยซื้อจากผู้อื่นเมื่อ พ.ศ. 2484, 2485 และ 2496 แต่สัญญาของจำเลยกระทำกันที่อำเภอจึงไม่ใช่เป็นการได้สิทธิโดยชอบทางทะเบียน เพราะที่ดินรายนี้มีตราจองแล้ว การจดทะเบียนที่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานทะเบียนที่ดิน จำเลยจึงยกสิทธิในการที่ได้ซื้อที่ดินนี้ขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ไม่ได้
การที่มีหมายแจ้งไว้ในตราจองว่า เมื่อไม่ทำประโยชน์ ทอดทิ้งไว้เกิน 3 ปี ต้องเป็นที่ว่างเปล่านั้น เป็นเพียงระยะเวลาให้ทำประโยชน์เสียภายในกำหนด 3 ปี ตราจองที่บันทึกว่าทำประโยชน์แล้วกฎหมายให้ถือว่า เจ้าของมีกรรมสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่ามีผลเท่ากับโฉนด ดังนั้น โจทก์จะเสียกรรมสิทธิ์ก็ต่อเมื่อจำเลยได้กรรมสิทธิ์ไปโดยการครอบครองปรปักษ์ อันมีอายุความ 10 ปี ไม่ใช่กำหนดเวลา 3 ปี ดังกล่าวนั้น โจทก์รับซื้อฝากไว้ได้เพียงประมาณ 7 ปี แม้จำเลยจะครอบครองมาก่อนเกิน 10 ปี ก็ไม่อาจใช้ยันโจทก์ได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 491
  • พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 มาตรา 11

ผู้พิพากษา

สารกิจปรีชา
การุณย์นราทร
ห้วน ประชาบาล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android