คำพิพากษาย่อสั้น
สัญญาเช่าซึ่งจำเลยทำกับโจทก์ระบุไว้ชัดเจนว่า "เพื่อทำการค้า" เมื่อจำเลยทำการค้าจดทะเบียนการค้า เสียภาษีการค้า ห้องพิพาทจะอยู่ในทำเลการค้าหรือไม่ การค้าของจำเลยจะเล็กน้อยเพียงใดก็ไม่สำคัญ และแม้จำเลยจะอยู่อาศัยในห้องพิพาทด้วยก็ตาม ก็ต้องถือว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทเพื่อประกอบการค้า ดังนี้ จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504
จำเลยทำสัญญาเช่าห้องพิพาทโดยเสียค่าเช่าให้โจทก์เดือนละ 30 บาท แต่มีเงื่อนไขข้อตกลงกันอีกว่า การเสียค่าเช่า ถ้าเทศบาลประเมินภาษีขึ้น จะต้องขึ้นค่าเช่าตามนั้น ต่อมาเทศบาลได้ประเมินค่าเช่าเดือนละ 100 บาท ดังนี้ ย่อมถือว่าการขึ้นค่าเช่าตามที่เทศบาลประเมินภาษีนั้น เป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมายใช้บังคับได้ เมื่อจำเลยไม่ยอมชำระค่าเช่าให้โจทก์ตามข้อตกลง โจทก์ก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยได้