คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2536

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ในชั้นที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวขอให้ศาลห้ามจำเลยทั้งสองดำเนินกิจการโรงแรม บ. จำเลยทั้งสองคัดค้านเพียงว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินที่ตั้งกิจการโรงแรม จำเลยเข้าไปดำเนินกิจการโรงแรมดังกล่าวก็เพื่อรักษาราคาที่ดินของจำเลยทั้งสองมิให้ตกต่ำลงเท่านั้น คำคัดค้านของจำเลยทั้งสองเท่ากับยอมรับในตัวว่ากิจการโรงแรม บ. เป็นของโจทก์ แม้การขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2) บัญญัติให้ทำเป็นคำขอฝ่ายเดียว แต่ศาลก็มีอำนาจที่จะฟังคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งหรือคู่ความอื่น ๆ ก่อนออกคำสั่งได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 21(3) และปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยทั้งสองแถลงไม่ติดใจสืบพยานชั้นไต่สวน แสดงว่าศาลให้โอกาสนำพยานเข้าสืบแล้ว แต่จำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะนำพยานเข้าสืบเอง หาใช่จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบดังจำเลยทั้งสองฎีกาไม่ ในชั้นที่โจทก์และจำเลยทั้งสองพิพาทกันเกี่ยวกับการขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ศาลชั้นต้นจะมีอำนาจพิจารณาและพิพากษาคดีเพราะมิใช่ศาลที่ทรัพย์นั้นตั้งอยู่หรือไม่ ย่อมไม่ใช่ประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในชั้นนี้เพราะตราบใดที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้พิพากษาหรือจำหน่ายคดีออกจากสารบบความคู่ความย่อมมีสิทธิขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาได้เสมอ ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยฎีกาข้อนี้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254

ผู้พิพากษา

ประดิษฐ์ เอกมณี
ชลิต ประไพศาล
สุเมธ อุปนิสากร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android