คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2536

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์อนุญาตให้จำเลยเข้าอยู่อาศัยและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทของโจทก์ การที่จำเลยครอบครองที่ดินดังกล่าวจึงเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์และยึดถือแทนโจทก์ จำเลยจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือเพื่อตัวจำเลยเองได้ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าจำเลยไม่เจตนาจะยึดถือแทนโจทก์ต่อไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1381 แม้จำเลยจะได้คัดค้านการออกโฉนดที่ดินพิพาทของโจทก์แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งการคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินให้โจทก์ทราบอันจะถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ว่าไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป ดังนั้น เมื่อสำนักงานที่ดินมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบว่าจำเลยคัดค้านการออกโฉนดที่ดินของโจทก์ และกำหนดวันเวลาให้โจทก์ไปพบเจ้าพนักงานเพื่อดำเนินการสอบสวนเปรียบเทียบ เมื่อโจทก์และจำเลยได้พบกันในวันดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่าจำเลยได้บอกให้โจทก์ทราบในวันนั้นแล้วว่าจำเลยคัดค้านการขอออกโฉนดที่ดินของโจทก์และไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป โจทก์ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองยังไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันดังกล่าวซึ่งถือได้ว่าเป็นวันที่จำเลยแย่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1375 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381

ผู้พิพากษา

อัครวิทย์ สุมาวงศ์
เทพฤทธิ์ ศิลปานนท์
สมศักดิ์ วิธุรัติ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android