คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7421/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
เมื่อคดีแรกที่โจทก์ฟ้องจำเลย ศาลแรงงานได้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ดังนั้น ในวันที่ 24พฤศจิกายน ปีเดียวกันอันเป็นวันที่โจทก์มาฟ้องจำเลยในคดีหลังคดีแรกจึงยังไม่ถึงที่สุด ฟ้องโจทก์ในคดีหลังจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแรก และเมื่อในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องเรียกค่านายหน้าจากการขายจากจำเลยในคดีแรกนั้น โจทก์ยังไม่มีสิทธิได้รับค่านายหน้าจากการขายจากจำเลยที่โจทก์ฟ้องเรียกในคดีหลัง ค่านายหน้าจากการขายที่โจทก์ฟ้องจากจำเลยในคดีหลังจึงเป็นคนละจำนวนกับค่านายหน้าที่โจทก์ฟ้องเรียกจากจำเลยในคดีแรก ประเด็นแห่งคดีทั้งสองเรื่องจึงต่างกัน การที่โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีหลังจึงไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลมีข้อความว่า ข้อ 1 จำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์จำนวน 10,000 บาท ภายในวันที่22 เดือนนี้ โดยจะนำมาวางศาลเพื่อให้โจทก์รับไป ข้อ 2 โจทก์ยอมตามข้อ 1 ทุกประการไม่ติดใจเรียกร้องนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นข้อความดังกล่าวหมายความว่า โจทก์ยอมรับเงินจากจำเลยจำนวน10,000 บาท โดยไม่ติดใจที่จะเรียกร้องเอาเงินตามฟ้อง 54,572.33 บาทซึ่งนอกเหนือจากที่จำเลยยอม หาใช่เป็นการที่โจทก์ไม่ติดใจที่จะเรียกร้องเอาเงินจำนวนอื่นที่โจทก์ยังมีสิทธิเรียกจากจำเลยอีกไม่คำพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าวจึงไม่ผูกพันโจทก์ในอันที่จะทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินจากจำเลยในคดีอื่น
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31
  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54

ผู้พิพากษา

ชลอ บุณยเนตร
พรชัย สมรรถเวช
ชลอ ทองแย้ม

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android