คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6423/2544

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง , 66 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดสองกรรมให้เรียงกระทงลงโทษ ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 5 ปี ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี อันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยแต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสี่ตาม ป.อ. มาตรา 78 แล้วให้จำคุกจำเลยรวม 7 ปี 6 เดือน ตามบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นปรับบทมา เป็นการแก้เฉพาะกำหนดโทษให้เบาลง มิได้แก้บทความผิด ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ฟังข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้วว่า จำเลยได้ยึดถือครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางเป็นของตนแล้วจึงวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายต่อไปว่า ไม่ว่าจำเลยจะครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางนานเพียงใดหรือรับเมทแอมเฟตามีนเป็นของกลางมาแล้วจำหน่ายไปบางส่วนดังกล่าวทันที การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดสองกรรม การที่จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเพียงกรรมเดียว ศาลอุทธรณ์ภาค 6 วินิจฉัยความหมายคำว่าครอบครองคลาดเคลื่อน เพราะการครอบครองจะต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาอยู่ในครอบครองระยะหนึ่งก่อน จำเลยเพียงแต่มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้แล้วจำหน่ายไปจำนวน 1 เม็ด ทันที โดยจำเลยถือว่าจำเลยมิได้มีเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไว้ในครอบครอง จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง ส่วนที่จำเลยจำหน่ายให้แก่สายลับไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมา เพื่อที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความหมายของคำว่า "ครอบครอง" ตามฎีกาของจำเลย ถือว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ผู้พิพากษา

สุรชาติ บุญศิริพันธ์
กำพล ภู่สุดแสวง
วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android