คำพิพากษาย่อสั้น
ที่จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ชื่อ บริษัท อ.จำกัดกับทั้งการที่โจทก์มอบอำนาจให้ ว.เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ จำเลยที่ 1 ไม่ยอมรับและไม่รับรอง เป็นคำให้การที่ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งว่า จำเลยปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง จึงไม่มีประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องดังกล่าว และแม้โจทก์จะอ้างอิงเอกสารหนังสือรับรองเป็นพยานหลักฐานเพื่อสนับสนุนข้อต่อสู้ในเรื่องอำนาจฟ้องโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 วรรคแรก ก็ไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดีและแม้ศาลล่างทั้งสองจะรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวก็ไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
โจทก์เป็นพ่อค้าขายเครื่องปรับอากาศฟ้องเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบเครื่องปรับอากาศและอะไหล่ของเครื่องปรับอากาศแก่จำเลย สิทธิเรียกร้องดังกล่าวมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) และการที่จำเลยที่ 2 ตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็ค 5 ฉบับผ่อนชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศและอะไหล่ของเครื่องปรับอากาศแทนจำเลยที่ 1 ในระหว่างที่สิทธิเรียกร้องนั้นยังไม่ขาดอายุความ ย่อมมีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ด้วย ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ จึงเป็นการรับสภาพหนี้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ลงในเช็คฉบับสุดท้ายซึ่งเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามเช็คฉบับสุดท้ายได้เป็นต้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 181 วรรคสอง
จำเลยที่ 1 ชำระราคาสินค้าไปแล้ว 370,046 บาท คงค้างชำระ 211,408 บาทต่อมาจำเลยที่ 2 ตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ด้วยเช็ค 5 ฉบับ จำนวน 194,445 บาท แต่เรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ หนี้ค่าสินค้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง โจทก์เรียกร้องหนี้ที่ค้างได้เต็มจำนวน