คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5319/2544

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ จำเลยเป็นลูกค้าโจทก์ ตามบัตรเครดิต 2 ประเภท คือ เพื่อซื้อสินค้าและชำระราคาค่าบริการต่าง ๆ แทนเงินสดประเภทหนึ่ง กับใช้เบิกเงินสดจากบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน หรือธนวัฎบัตรเครดิตอีกประเภทหนึ่ง การให้บริการบัตรเครดิตเป็นวัตถุประสงค์ ของโจทก์ การที่โจทก์ให้บริการใช้บัตรเครดิตแก่สมาชิกโดยเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม โจทก์จึงเป็นผู้ประกอบธุรกิจในการรับทำงานต่าง ๆ ให้แก่สมาชิก และการที่โจทก์ได้ชำระเงินให้แก่เจ้าหนี้ของสมาชิกไปก่อน รวมทั้งการที่โจทก์ยอมให้จำเลยนำบัตรเครดิตไปถอนเงินสดจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ แล้วจึงเรียกเก็บเงินจากสมาชิกในภายหลัง เป็นการเรียกเอาค่าทดรองที่ได้ออกไปก่อน กรณีจึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองไปก่อน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในมูลหนี้ดังกล่าวจึงมีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (7) โจทก์แจ้งให้จำเลยงดใช้บัตรเครดิตตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2535 และมีการแจ้งชำระหนี้ครั้งสุดท้าย ก่อนวันดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงอาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้ตั้งแต่ต้นปี 2535 มิใช่นับแต่วันที่คำบอกกล่าวเลิกสัญญา มีผล โจทก์ฟ้องคดีวันที่ 9 สิงหาคม 2539 พ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่โจทก์อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ ฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/12
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34

ผู้พิพากษา

ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์
ระพินทร บรรจงศิลป
วิเทพ ศิริพากย์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android