คำพิพากษาย่อสั้น
โจทก์ทั้งสี่ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายสำหรับโจทก์ที่ 1 จำนวน 73,011 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 38,000 บาทโจทก์ที่ 3 จำนวน 8,183 บาท และโจทก์ที่ 4 จำนวน 10,368 บาทรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 129,562 บาท ดังนี้ไม่ใช่หนี้ร่วมที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ เป็นคดีมีทุนทรัพย์ตามจำนวนเงินที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดเท่านั้น คดีในส่วนของโจทก์ที่ 3ที่ 4 มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้ก็ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา จำเลยที่ 2ไม่มีสิทธิที่จะฎีกาข้อเท็จจริงในส่วนของโจทก์ที่ 3 ที่ 4 ต่อมาได้และคดีในส่วนของโจทก์ที่ 2 มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยที่ 2 ในข้อเท็จจริงสำหรับคดีในส่วนของโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 มานั้น จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย