คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2529

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 2 ของจำเลย แม้จะมีบางส่วนเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่จำเลยก็มิได้ยกขึ้นว่ากันตั้งแต่ศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ และแม้ข้อกฎหมายดังกล่าวจะเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แต่ก็เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 ประกอบมาตรา 225 ส่วนฎีกาข้อ 3 ของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสาม
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เห็นว่า ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องป้องกันนั้น จำเลยได้ถามค้านและสืบต่อสู้มาในศาลชั้นต้นแล้วว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตนดังจะเห็นได้ชัดจากคำพยานในสำนวน ส่วนในชั้นอุทธรณ์นั้น จำเลยก็อุทธรณ์ไว้ชัดแจ้งแล้วว่าเป็นการป้องกันข้อกฎหมายดังกล่าวจึงยกขึ้นว่ากันมาทั้งสองศาลแล้ว จำเลยจึงฎีกาได้ อย่างไรก็ดี การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นความผิดและข้อกฎหมายที่ว่าการกระทำเป็นความผิดหรือไม่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ย่อมยกขึ้นอ้างได้ แม้จะไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลล่างก็ตาม และการจะผิดกฎหมายและได้รับโทษหรือไม่ย่อมเป็นสาระที่ควรรับไว้วินิจฉัย ส่วนฎีกาข้อ 3 ที่ว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกานั้น ถ้าศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำเป็นความผิดและปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีเหตุบรรเทาโทษตามกฎหมายก็ไม่มีกฎหมายใดห้ามไม่ให้ศาลใช้ดุลพินิจรอการลงโทษจำคุกจำเลยข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ย่อมฎีกาได้เช่นกัน โปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสามไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์และทนายโจทก์ร่วมต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 125,127 แผ่นที่ 2)
ระหว่างพิจารณา นายนันทวัธน์ธนรัตนากร ผู้เสียหาย ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,83 จำคุกคนละ 6 เดือน ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 3 เดือน คืนของกลางแก่เจ้าของ ข้อหาความผิดอื่นให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 123,124)
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 125)




คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาข้อ 2 จำเลยทั้งสามฎีกาว่าจำเลยที่ 2ไม่มีสาเหตุกับผู้เสียหายมาก่อน จำเลยทั้งสามมิได้ร่วมปรึกษากันว่าจะทำร้ายผู้เสียหาย เพียงแต่พบผู้เสียหายโดยบังเอิญ จำเลยที่ 2 เห็นผู้เสียหายจะทำร้ายจำเลยที่ 1 จึงหยิบขวดที่ทำให้แตกแกว่งขัดขวางมิให้ผู้เสียหายทำร้ายจำเลยที่ 1 แล้วเกิดชุลมุนกันขึ้น ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ เป็นผลจากการที่จำเลยป้องกันตัวเอง บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับไม่แน่ชัดว่าถูกแทง อาจเป็นบาดแผลที่ถูกกระจกตู้แตกก็ได้ ฎีกาของจำเลยดังกล่าวแท้จริงแล้วเป็นฎีกาโต้แย้งข้อเท็จจริง ตามที่ศาลล่างทั้งสองรับฟังมา จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อ 3 จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาดุลพินิจของศาล ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกัน ฎีกาของจำเลยดังกล่าวจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสามชอบแล้ว ยกคำร้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ผู้พิพากษา

เสรี แสงศิลป์
สุชาติ จิวะชาติ
อำนวย เปล่งวิทยา

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android