คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2532

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 ขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันขอใช้หลักทรัพย์ที่ได้ยื่นไว้เดิมและเงินสดจำนวน 240,000 บาท เป็นหลักประกัน
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติม ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84,91,334,335,264,265,268
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์โจทก์จึงขอถอนฟ้องข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมเฉพาะจำเลยที่ 1ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรค 2,265,268 เรียงกระทงลงโทษ ฐานรับของโจรจำคุกคนละ 6 ปี ฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ให้ลงโทษฐานใช้ จำคุกคนละ 2 ปี รวมเป็นจำคุกคนละ8 ปี สำหรับจำเลยที่ 1 ได้ความว่าจำเลยที่ 1 ถูกศาลแขวงพระนครใต้ลงโทษในความผิดอันเกิดจากการกระทำเดียวกับที่ฟ้องนี้และคดีถึงที่สุดแล้วตามคดีหมายเลขแดงที่ 6071/2529 ศาลนี้จึงลงโทษจำเลยที่ 1 อีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 เสีย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ยื่นคำร้องดังกล่าวโดยมีคำร้องประกอบของผู้ขอประกัน (อันดับ 153,152)
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ที่ 3ชั่วคราว ชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท(อันดับ 31,123 แผ่นที่ 8)




คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ตีราคาประกันคนละ 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน)ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันและหลักประกันเพิ่ม แล้วดำเนินการต่อไป
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 107
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108

ผู้พิพากษา

เจริญ นิลเอสงฆ์
ชูศักดิ์ บัณฑิตกุล
ก้าน อันนานนท์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android