คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ไม่ได้ลงลายมือชื่อในคำฟ้อง คงมีแต่ทนายโจทก์ลงลายมือชื่อเป็นผู้เรียงพิมพ์เท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67(5) ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งให้คืนหรือแก้ไขคำฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 วรรคสอง เมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาไปโดยมิได้สั่งให้คืนหรือแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวก็ตาม แต่เมื่อปรากฏว่าในชั้นอุทธรณ์ โจทก์ได้ลงลายมือชื่อในคำแก้อุทธรณ์ย่อมแสดงว่าโจทก์ได้ฟ้องคดีนี้จริง ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำฟ้องแล้วอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไป ถือว่าได้มีการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวแล้วฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ จำเลยทั้งสามรับจ้างโจทก์ปลูกสร้างอาคารพิพาทโดยจำเลยทั้งสามรับเป็นผู้ดำเนินการเขียนแบบแปลน และยื่นคำขออนุญาตปลูกสร้างต่อเทศบาลด้วย เมื่อปรากฏว่าการก่อสร้างยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางเทศบาลเป็นเหตุให้เทศบาลระงับการก่อสร้าง จำเลยทั้งสามจึงตกเป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 391 วรรคแรก แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ทางเทศบาลได้มีคำสั่งให้รื้อถอนเฉพาะส่วนที่รุกล้ำที่สาธารณะ ซึ่งการก่อสร้างที่รุกล้ำดังกล่าวเป็นผลจากคำสั่งของโจทก์เอง โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิด ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนอาคารพิพาทและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67

ผู้พิพากษา

สุวรรณ ตระการพันธุ์
นาม ยิ้มแย้ม
สุรินทร์ นาควิเชียร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android