คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2558

 แหล่งที่มา: ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
 เผยแพร่เมื่อ: 9 ก.ย. 2558 15:02:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีนี้แม้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๓ จะเป็นหน่วยงานทางปกครอง แต่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า เป็นเจ้าของรวมในที่ดิน น.ส. ๓ ก. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและกระทำละเมิดออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ (ที่ธรณีสงฆ์) ทับซ้อนที่ดินของผู้ฟ้องคดี โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีเข้าร่วมในการรังวัด ขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๓ ให้การทำนองเดียวกันว่าการออกโฉนดที่ดินดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่ได้กระทำละเมิด และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท แต่ผู้อื่นออก น.ส. ๓ ก. ทับที่ดินของวัด ซึ่งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๓๔ ห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับวัด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ดำเนินการออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า คดีนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท ดังนั้น การที่ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามคำขอของผู้ฟ้องคดีได้นั้นจำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของผู้ฟ้องคดีตามที่กล่าวอ้างหรือเป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นสำคัญ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android