คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 25/2558

 แหล่งที่มา: ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
 เผยแพร่เมื่อ: 5 ก.พ. 2559 14:37:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีนี้โจทก์ทั้งสองเป็นเอกชนยื่นฟ้องเอกชนทั้งสี่และหน่วยงานทางปกครองเป็นจำเลย อ้างว่า จำเลยที่ ๑ จดทะเบียนขายฝากที่ดินทั้งสี่แปลงไว้กับโจทก์ทั้งสองที่สำนักงานที่ดินหน่วยงานในความรับผิดชอบของจำเลยที่ ๕ การที่จำเลยที่ ๑ ทำนิติกรรมจดทะเบียนขายฝากที่ดินระหว่างโจทก์ทั้งสอง รวมถึงการทำนิติกรรมอื่น ขณะจำเลยที่ ๑ เป็นบุคคลล้มละลาย โจทก์ทั้งสองเชื่อว่าจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ทราบว่าจำเลยที่ ๑ เป็นบุคคลล้มละลายขณะจำเลยที่ ๑ ทำนิติกรรมจดทะเบียนขายฝากที่ดินและนิติกรรมซื้อขายสิ่งปลูกสร้างกับโจทก์ทั้งสอง ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินและนิติกรรมการไถ่ถอนการขายฝากที่ดินระหว่างจำเลยทั้งสี่และนิติกรรมการขายฝากที่ดินและนิติกรรมการซื้อขายสิ่งปลูกสร้างระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยที่ ๑ ให้จำเลยที่ ๑ คืนเงินแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ ให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ ๑ ขายฝากที่ดินทั้งสี่แปลงให้แก่โจทก์ทั้งสองโดยสุจริตและถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยทั้งสี่ ไม่ทราบมาก่อนว่าจำเลยที่ ๑ ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยที่ ๕ ให้การว่าเจ้าพนักงานของจำเลยที่ ๕ ดำเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๔ ตามระเบียบกฎหมายโดยสุจริต ไม่ได้ประมาทเลินเล่อ ขอให้ยกฟ้อง เห็นว่า เมื่อพิจารณาความมุ่งหมายของโจทก์ทั้งสองในการใช้สิทธิทางศาลก็เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษารับรองคุ้มครองสิทธิของโจทก์ทั้งสอง การที่ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามคำขอของโจทก์ทั้งสองได้นั้น ศาลจำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า นิติกรรมขายฝากที่ดินและนิติกรรมอื่นที่จำเลยที่ ๑ ทำขึ้นตามข้อกล่าวอ้างของโจทก์ทั้งสองเป็นโมฆะหรือไม่ และโจทก์ทั้งสองจะเรียกเงินที่จ่ายไปให้กับจำเลยทั้งห้าคืนได้หรือไม่ เพียงใดเสียก่อน แล้วจึงจะพิจารณาประเด็นอื่นได้ต่อไป กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิของคู่สัญญาในทางแพ่ง อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android