คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2535

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ไม่รับเป็นฎีกา
โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาขอโจทก์ ร่วมเป็นข้อกฎหมาย โปรดมี คำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว
ไม่ปรากฎว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาพิพากษา โดยเรียก จำเลยตามสำนวนคดีหลัง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91 ที่แก้ไขแล้วและขอให้นับโทษจำเลยที่ 2 ทั้งสอง คดีติดต่อกัน
นายปราโมทย์อภิสารธนรักษ์ ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมทั้งสองสำนวน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องทั้งสองสำนวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 60)
โจทก์ร่วมยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 61)




คำสั่ง
คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ร่วมจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2220 ที่แก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 13 ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วมนั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของโจทก์ร่วม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ผู้พิพากษา

จองทรัพย์ เที่ยงธรรม
ประมาณ ชันซื่อ
สังเวียน รัตนมุง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android