คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2556

 แหล่งที่มา: ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
 เผยแพร่เมื่อ: 7 พ.ย. 2557 15:38:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีที่โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ซึ่งเป็นเอกชน และจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันรังวัดรวมโฉนดที่ดิน ๗ แปลง ทับที่ดินของโจทก์หลังจากนั้นก็ยื่นคำขอแบ่งที่ดินแปลงดังกล่าวออกเป็น ๔ แปลง แล้วทำนิติกรรมโอนที่ดินบางส่วนให้กับจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๖ ขอให้พิพากษาหรือมีคำสั่งให้กรมที่ดินจำเลยที่ ๗และอธิบดีกรมที่ดิน จำเลยที่ ๘ เพิกถอนโฉนดที่ดินเดิม และโฉนดที่ดินที่ได้จากการแบ่งแยกดังกล่าว รวมทั้งรายการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมทั้งหมดหากไม่สามารถดำเนินการได้ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย รวมทั้งมีคำสั่งห้ามจำเลยพร้อมบริวารเกี่ยวข้องและให้ออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้การทำนองเดียวกันว่า การรังวัดสอบเขตและการออกโฉนดที่ดินเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ถูกจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ แย่งการครอบครองตั้งแต่ก่อนยื่นคำขอรังวัดรวมโฉนดที่ดิน จำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๖ ให้การทำนองเดียวกันว่า การออกโฉนดที่ดิน เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และได้ที่ดินมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต ทั้งได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ไม่ได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์ ส่วนจำเลยที่ ๓ ที่ ๗ และที่ ๘ ให้การว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของจำเลยที่ ๗ แล้ว และไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ การที่ศาลจะพิพากษาหรือมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์ได้นั้น ศาลจำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่เป็นสำคัญ แล้วจึงจะพิจารณาประเด็นอื่นได้ต่อไป จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android