คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14526/2555

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 28 ก.พ. 2557 14:12:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร จำเลยให้การรับสารภาพ และโจทก์สืบพยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลย เมื่อจำเลยอุทธรณ์ว่าพยานโจทก์ที่นำสืบประกอบคำรับสารภาพรับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ชอบที่จะรับวินิจฉัยให้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ไม่รับวินิจฉัยให้จึงเป็นการไม่ชอบ
ผู้เสียหายที่ 2 เป็นมารดาผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน เป็นผู้พาผู้เสียหายที่ 1 ไปให้แพทย์ตรวจร่างกายพบว่าผู้เสียหายที่ 1 ตั้งครรภ์ และสอบข้อเท็จจริงจนทราบจากผู้เสียหายที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 1 ชั้นพิจารณาจำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียหายที่ 1 ให้การไว้ตามคำให้การชั้นสอบสวนเอกสารหมาย จ.5 ซึ่งยืนยันว่าจำเลยข่มขืนกระทำชำเรา ศาลรับฟังคำเบิกความของผู้เสียหายที่ 2 และคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งเป็นพยานบอกเล่าซึ่งมีเหตุผลอันหนักแน่นมารับฟังลงโทษจำเลยได้
ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตนและพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วย เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ และโจทก์ไม่ต้องสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ ศาลจึงรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องตามคำรับสารภาพ ฎีกาของจำเลยที่ว่าไม่ได้กระทำความผิดจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ยกขึ้นใหม่และขัดแย้งกับคำให้การรับสารภาพของจำเลย และเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น เพิ่งมายกขึ้นว่ากันในศาลฎีกา จึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227/1
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226/3
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ผู้พิพากษา

ปิ่น ศรีเมือง
พิศล พิรุณ
วัชรินทร์ ปัจเจกวิญญูสกุล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android