คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2554

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 18 พ.ค. 2555 13:51:29

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่ศาลจะรับฟังคำให้การในชั้นสอบสวนของ ส. ยิ่งกว่าคำเบิกความต่อศาลนั้น จะต้องมีพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นว่า ส. เบิกความเพื่อช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดแต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ส. ไม่ได้เป็นญาติของจำเลย และไม่เคยรู้จักกันมาก่อนทั้งยังมีภูมิลำเนาอยู่คนละอำเภอ เห็นเหตุการณ์เพราะมีบ้านอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเท่านั้น ไม่มีผลประโยชน์ได้เสียกับฝ่ายใด โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองก็ไม่ได้ถามค้านหรือนำสืบให้เห็นถึงความไม่น่าเชื่อถือในคำเบิกความของ ส. นอกจากนี้ก่อนเบิกความ ส. ได้สาบานตนแล้วเบิกความต่อหน้าศาลและคู่ความทุกฝ่าย เปิดโอกาสให้มีการถามค้านได้แต่การให้การต่อพนักงานสอบสวนนั้นเป็นการให้การสองต่อสอง อาจถูกพนักงานสอบสวนชี้นำให้ให้การตามแนวทางการสอบสวนของตนเองก็ได้ เชื่อว่า ส. เป็นพยานคนกลางเบิกความไปตามความจริงที่ได้รู้เห็นมา
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227/1
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226/3

ผู้พิพากษา

ธนฤกษ์ นิติเศรณี
สิริรัตน์ จันทรา
สมยศ เข็มทอง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android