คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4110/2552

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 11 ต.ค. 2555 10:26:51

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่ผู้ร้องนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จำนวน 200,000 บาท มาชำระตามคำสั่งศาลชั้นต้นภายในกำหนดเวลาที่ศาลขยายระยะเวลาให้ แสดงว่าผู้ร้องมีคความประสงค์ที่จะต่อสู้คดีต่อไปในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งในคำแถลงขอวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมของผู้ร้องหลังยื่นคำแถลง 6 วัน แต่เพียงว่า เสนอวันนี้ นำฝากโดยไม่ระบุไว้ด้วยว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์ของผู้ร้องไว้ด้วยในอุทธรณ์แล้วแม้จะมีตราประทับที่ด้านล่างของคำแถลงว่า ถ้าศาลไม่อาจสั่งได้ในวันนี้ ผู้ยื่นจะมาติดตามเพื่อทราบคำสั่งทุก ๆ 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทราบคำสั่งแล้วก็ตาม ก็ย่อมฟังได้แต่เพียงว่าเสมียนทนายผู้ร้องทราบคำสั่งศาลที่สั่งรับเงินค่าขึ้นศาลไว้เท่านั้น แม้ในวันเดียวกันศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งรับอุทธรณ์ และให้ผู้ร้องนำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่อาจจะถือได้ว่าเสมียนทนายผู้ร้องได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวด้วย เพราะเป็นการสั่งในเอกสารอีกฉบับหนึ่ง และเป็นการสั่งในภายหลังโดยไม่ได้แจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องทราบถึงแม้ว่าที่ด้านล่างของอุทธรณ์จะมีตราประทับว่า ถ้าศาลไม่อาจสั่งได้ในวันนี้ ผู้ยื่นจะมาติดตามเพื่อทราบคำสั่งทุก ๆ 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทราบคำสั่งแล้วก็ตามเพราะศาลชั้นต้นได้เคยส่งให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีมีทุนทรัพย์มาครั้งหนึ่งแล้วและถือได้ว่าผู้ร้องได้ทราบคำสั่งดังกล่าวโดยอาศัยตราประทับที่ด้านล่างของอุทธรณ์มาครั้งหนึ่งแล้ว หากจะให้ตราประทับที่ด้านล่างของอุทธรณ์มีผลบังคับตลอดไปว่าศาลชั้นต้นจะสั่งอะไรในอุทธรณ์ให้ถือว่าผู้ร้องได้ทราบทุกคำสั่งในทุก ๆ 7 วัน ก็ย่อมที่จะไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร้อง ดังนั้น จึงถือว่าผู้ร้องทราบคำสั่งรับในอุทธรณ์แล้วไม่ได้ เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นต้องแจ้งคำสั่งรับอุทธรณ์ให้แก่ผู้ร้องทราบโดยตรง เมื่อผู้ร้องมิได้ดำเนินการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ผู้คัดค้านทั้งสองตามคำสั่งศาลชั้นต้น จึงยังถือไม่ได้ว่า ผู้ร้องจงใจเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2)
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174

ผู้พิพากษา

มานัส เหลืองประเสริฐ
ชัยวัฒน์ เวียงธีรวัฒน์
อาวุธ ปั้นปรีชา

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android