คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5474/2553

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 20 ธ.ค. 2554 13:59:27

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวศาลฎีกาจำต้องย้อนไปวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าโจทก์ร่วมได้มอบหมายให้จำเลยดำเนินการในลักษณะที่ส่งมอบการครอบครองเงินไปอยู่กับจำเลยหรือไม่ ฎีกาของจำเลยจึงมีลักษณะเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้าง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและยังคงให้ลงโทษจำคุกกระทงละไม่เกินห้าปี ฎีกาของจำเลยจึงต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ก่อนแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ จำเลยและโจทก์ร่วมได้ทำบันทึกข้อตกลงอันเป็นการยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ร่วมในความผิดฐานยักยอกทรัพย์จึงระงับไป โจทก์ร่วมไม่มีอำนาจแจ้งความร้องทุกข์และพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวน เมื่อมีการสอบสวนเพิ่มเติมโดยแจ้งข้อหาลักทรัพย์ จึงเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์และโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจฟ้องในข้อหาลักทรัพย์นั้นเป็นฎีกาที่มีเงื่อนไขว่าศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยก่อนว่าการกระทำความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือไม่ต้องห้ามมิให้ฎีกาดังวินิจฉัยไว้ข้างต้นแล้ว ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระอันควรแก่การวินิจฉัยเพราะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษานี้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

ผู้พิพากษา

สมศักดิ์ อเนกพุฒิ
สุมิตร สุภาดุลย์
พิศาล อัยยะวรากูล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android