คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6801/2552

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 11 ส.ค. 2554 10:11:32

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์มีจ่าสิบตำรวจ จ. สิบตำรวจ ม. และสิบตำรวจ ค. ซึ่งเป็นผู้จับกุมจำเลยมาเบิกความเป็นพยาน แต่พยานโจทก์ทั้งสามปากมิได้รู้เห็นเหตุการณ์ในขณะที่มีการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนระหว่างสายลับกับจำเลย เหตุที่ทราบว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด ในราคาเม็ดละ 70 บาท เพราะสายลับเป็นผู้แจ้งคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสามดังกล่าวจึงเป็นพยานบอกเล่า ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้แม้จะพบธนบัตรฉบับละ 20 บาท จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธนบัตรที่ใช้ล่อซื้ออยู่ในกระเป๋ากางเกงที่จำเลยถอดไว้ในตะกร้าเสื้อผ้า ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าจำเลยรับธนบัตรดังกล่าวไว้ เนื่องจากการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนเพราะสายลับอาจมอบธนบัตรดังกล่าวให้จำเลยหรือจำเลยได้มาด้วยเหตุอื่นก็ได้
คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่อาจนำมาฟังประกอบพยานอื่นของโจทก์เท่านั้น ไม่มีน้ำหนักรับฟังโดยลำพังเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นศาล โจทก์จึงต้องนำพยานหลักฐานมาสืบให้มีน้ำหนักมั่นคงเพื่อให้เห็นว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้สายลับจริง แต่โจทก์กลับไม่มีพยานดังกล่าวมาสืบโดยคงมีเพียงผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนเท่านั้น พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาจึงมีเหตุสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227

ผู้พิพากษา

อัปษร หิรัญบูรณะ
ฐานันท์ วรรณโกวิท
ชัยยันต์ ศุขโชติ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android