คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5142/2552

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 14 ก.ค. 2554 09:16:46

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 8 (9) จำเลยมีหน้าที่ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวซึ่งจำเลยนำสืบฟังได้เป็นที่แน่นอนว่าจำเลยมีสิทธิที่จะรับเงินจากการที่บริษัท ส. ได้นำมาวางต่อศาลเพื่อชำระหนี้ให้แก่จำเลยในคดีแพ่ง และสิทธิดังกล่าวมีจำนวนมากกว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย เมื่อโจทก์ได้ขออายัดเงินดังกล่าวและได้รับเงินตามที่อายัดในคดีแพ่งแล้ว โจทก์ก็ได้รับชำระหนี้ภาษีอากรค้างเป็นการครบถ้วนและจะมีเงินเหลือคืนจำเลยอีกจำนวนหนึ่ง พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบมาจึงหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายได้ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
ส่วนที่โจทก์ได้กล่าวอ้างในอุทธรณ์ว่า จำเลยยังเป็นหนี้เจ้าหนี้อื่นอีกโดยได้แนบหลักฐานการตรวจคำขอรับชำระหนี้ นั้น โจทก์เพิ่งยกข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยยังเป็นหนี้บุคคลอื่นอีกขึ้นมาอ้างในชั้นอุทธรณ์ ไม่ได้ว่ากล่าวกันมาในชั้นพิจารณาของศาลล้มละลายกลางแต่อย่างใด ทำให้จำเลยไม่มีโอกาสโต้แย้งหรืออธิบายถึงหนี้ต่างๆ มาก่อน ทั้งปรากฏว่าการตรวจคำขอรับชำระหนี้นั้นก็สืบเนื่องจากศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด ซึ่งต่อมาศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่จึงทำให้คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดรวมถึงกระบวนพิจารณาต่างๆ เป็นอันต้องเพิกถอนไปในตัว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 8

ผู้พิพากษา

สมศักดิ์ จันทรา
รัตน กองแก้ว
ธนัท วิรบุตร์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android