คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2490

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

คำเสนอที่มีข้อความว่า มีความประสงค์จะซื้อแร่ 60 ตัน แต่จะซื้อวันนี้เพียง 10 ตันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอขอซื้อ 10 ตัน ส่วนอีก 50 ตันเป็นเพียงคำปรารภไม่ใช่คำเสนอและไม่ใช่คำมั่นจะซื้อ
มีหนังสือเสนอซื้อแร่ในวันนั้น ฝ่ายผู้ขายก็สนองรับขายในวันนั้นถือว่าเป็นคำเสนอแก่ผู้อยู่เฉพาะหน้า ซึ่งจะสนองรับได้แต่ ณ ที่นั้นเวลานั้นเท่านั้น คำเสนอในส่วนที่ไม่สนองรับก็ย่อมสิ้นผล
ฝ่ายผู้ขายมีหนังสือถึงฝ่ายผู้ซื้อว่าตามที่ตกลงขายแร่ให้ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะมารับเมื่อไร ซึ่งความจริงไม่มีการเสนอสนองทำสัญญาในแร่ส่วนนี้ ดั่งนี้ ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง เป็นแต่กล่าวอ้างถึงสิ่งซึ่งไม่มีและในกรณีที่มีคำเสนออยู่ก่อน ก็ย่อมทำให้กลายเป็นคำเสนอขึ้นใหม่ตาม มาตรา 359 ไม่ได้
คนหนึ่งบอกขายทรัพย์อีกคนหนึ่งบอกว่า เต็มใจซื้อ แต่มีอุปสรรคหรือยังไม่มีเงินนั้น ไม่ถือว่าเป็นคำสนอง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายกันในเดือนกันยายนศาลจะตัดสินว่าทำสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเกิดขึ้นในเดือนอื่นไม่ได้เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 354
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 356
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 359
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 453
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 454
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172

ผู้พิพากษา

ประมูล สุวรรณศร
นาถปรีชา
มนูภันย์วิมลสาร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android