คำพิพากษาย่อสั้น
สำหรับความผิดฐานร่วมกันซื้อหรือรับไว้ซึ่งเลื่อยโซ่ยนต์ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้าม และฐานร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตาม ป.อ. มาตรา 91 นั้น ไม่ถูกต้อง เนื่องจากแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแยกเป็นความผิด 2 กรรมก็ตาม แต่การที่จำเลยซื้อหรือรับไว้ซึ่งเลื่อยโซ่ยนต์ของกลางที่มีผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้าม และการมีเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าวไว้ในครอบครองนั้น เห็นได้ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน คือการครอบครองเลื่อยโซ่ยนต์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 90 เมื่อความผิดตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ ฯ ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ฯ ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อความผิดทั้งสองฐานดังกล่าว มีระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีเท่ากัน แต่คดีนี้ราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วเป็นเงิน 3,730 บาท หากมีการลงโทษปรับสูงสุดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ฯ มาตรา 27 ทวิ จะลงโทษปรับได้เป็นเงิน 14,920 บาท แต่ตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ ฯ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง ลงโทษปรับได้สูงสุดหนึ่งแสนบาท จึงถือว่าโทษปรับตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ ฯ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง เป็นบทที่มีโทษหนักกว่า ต้องลงโทษตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ ฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ. มาตรา 90
ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด ฯ กำหนดให้จ่ายสินบนและรางวัลจากเงินที่ได้จากการขายของกลางซึ่งศาลสั่งริบ หรือในกรณีที่ศาลมิได้สั่งริบของกลางหรือของกลางที่ศาลสั่งริบนั้นไม่อาจขายได้ ให้จ่ายจากเงินค่าปรับที่ได้ชำระต่อศาล เมื่อคดีนี้ศาลมิได้สั่งริบของกลาง และมิได้ลงโทษปรับจำเลยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จ่ายสินบนและรางวัลตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225